1. งานพิมพ์แบบออฟเซ็ท Offset Printing

งานพิมพ์ออฟเซ็ตเป็นการพิมพ์บนพื้นที่ราบเรียบเสมอกัน งานพิมพ์ด้วยระบบออฟเซ็ทจะได้งานที่มีคุณภาพสูง และสามารถทำการพิมพ์ได้เป็นจำนวนมาก เหมาะกับงานพิมพ์สื่อ กระดาษ วารสาร นิตยสาร หนังสือ กล่องสินค้า กล่องอาหาร กล่องบรรจุภัณฑ์ประเภทต่างๆ สามารถพิมพ์ได้ครั้งละมากๆได้ และยิ่งพิมพ์เยอะราคาต่อชิ้นยิ่งถูกตาม

2. งานพิมพ์แบบดิจิทัล Digital Printing

เป็นกระบวนการพิมพ์ภาพแบบดิจิทัล ไม่จำเป็นต้องใช้เพลทพิมพ์ ต่างจากการพิมพ์แบบออฟเซ็ต การพิมพ์แบบดิจิทัลสามารถส่งโดยตรงจากคอมพิวเตอร์ไปยังแท่นพิมพ์ดิจิทัล เหมาะสำหรับการพิมพ์บนกระดาษ กระดาษถ่ายภาพ ผ้าใบ ผ้า ผ้าใยสังเคราะห์ที่จำนวนไม่มาก

3. งานพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท Inkjet Printing

การพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท เราจะได้บ่อยกับงานพิมพ์ทั่วๆ ไป นิยมใช้กับการพิมพ์ที่บ้านของนักเรียน-นักศึกษา หรือใช้เพื่อการพิมพ์ในที่ทำงานก็ได้ด้วยเช่นกัน โดยการพิมพ์แบบอิงค์เจ็ทสร้างภาพโดยการพ่นละอองหมึกขนาดเล็กหลายพันหยดลงบนกระดาษอย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้เป็นภาพหรือตัวอักษรตามคำสั่งในระบบ

4. งานพิมพ์แบบ Laser Printing

การพิมพ์แบบเลเซอร์คล้ายกับการพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท ยิงเลเซอร์ไปสร้างภาพบนกระดาษโดยการใช้ผลละลาย เพื่อสร้างภาพถาวรในเครื่องพิมพ์ งานพิมพ์รูปแบบเลเซอร์จะรวดเร็วและทนต่อสีซีดจางมากกว่างานพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท ผลลัพธ์ที่ได้ของงานพิมพ์เลเซอร์มีคุณภาพสูง เหมาะกับใช้ในสำนักงานที่ต้องการความรวดเร็วและความคมชัดในการพิมพ์

5. งานพิมพ์แบบซิลค์สกรีน Silk Screen Printing

การพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท เราจะได้บ่อยกับงานพิมพ์ทั่วๆ ไป นิยมใช้กับการพิมพ์ที่บ้านของนักเรียน-นักศึกษา หรือใช้เพื่อการพิมพ์ในที่ทำงานก็ได้ด้วยเช่นกัน โดยการพิมพ์แบบอิงค์เจ็ทสร้างภาพโดยการพ่นละอองหมึกขนาดเล็กหลายพันหยดลงบนกระดาษอย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้เป็นภาพหรือตัวอักษรตามคำสั่งในระบบ

6. งานพิมพ์แบบเฟล็กโซกราฟี Flexographic Printing

เป็นการพิมพ์พื้นนูน โดยการให้สีติดอยู่ในส่วนของพื้นที่นูนของแม่พิมพ์ ภาพที่ได้เกิดจากที่ที่อยู่บนพื้นนูนของแม่พิมพ์ไปประทับกับวัตถุนั่นเอง การพิมพ์ประเภทนี้นิยมใช้กับงานพิมพ์ประเภทกล่องลูกฟูก กระสอบ ซองพลาสติกชนิดต่างๆ